เคล็ดลับ 5 ข้อ ช่วยให้คุณใช้แฟลชไดร์ฟได้นานจนคุ้มค่า
โดย:
admin
[IP: 171.99.160.xxx]
เมื่อ: 2018-04-20 15:39:07
แฟลชไดร์ฟ เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่มีส่วนช่วยในการบันทึกข้อมูลต่างๆ ทั้งเอกสาร เพลง รุปภาพหรือไฟล์อื่นๆ แต่ถึงแม้แฟลชไดร์ฟจะมีความทนทานและใช้งานได้ยาวนานมากแค่ไหน หากคุณเก็บรักษาไม่ดีหรือใช้งานไม่ถูกวิธี ก็ทำให้อุปกรณ์ดิจิตอลชิ้นเล็กๆ นี้อายุสั้นได้เช่นกัน ดังนั้นลองมาศึกษา 5 เคล็ดลับที่จะมาช่วยยืดอายุการใช้งานแฟลชไดร์ฟ ให้คุณใช้ได้นานจนคุ้มค่าคุ้มราคากันดีกว่าค่ะ
1. ปลอดภัยไว้ก่อนด้วยการแสกนไวรัส
ไวรัสคอมพิวเตอร์เป็นศัตรูตัวร้ายของคนใช้คอมพิวเตอร์ทุกคน ซึ่งแฟลชไดร์ฟนั้นเป็นอุปกรณืที่มีความเสี่ยงในการนำพาไวรัสจากคอมเครื่องอื่นมาติดกับคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของเราได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นก่อนการใช้งานเราจึงต้องแสกนไวรัสก่อนเสมอเพื่อตรวจหาไวรัสที่อาจติดมา ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับคอมของเรา รวมถึงป้องกันไฟล์เอกสารสำคัญหรือรูปภาพต่างๆ สูญหายจากการโดนไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ติดมาจากแฟลชไดร์ฟทำลายไป
2. พกพาแฟลชไดร์ฟสำรองเสมอ
ถึงแฟลชไดร์ฟจะสามารถบันทึกข้อมูลที่เราต้องการได้อย่างเพียงพอต่อชีวิตประจำวัน แต่ก็ไม่ควรเก็บข้อมูลไว้ในที่ๆ เดียวนะคะ โดยเฉพาะข้อมูลที่มีความสำคัญ ควรแบ่งเก็บในแฟลชไดร์ฟตัวอื่นๆ หรือแหล่งบันทึกข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น กูเกิลไดร์ฟ เมก้า วันไดร์ฟ คลาวน์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันการใช้งานแฟลชไดร์ฟตัวเดียวจนพังเสียหายและทำให้ไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้นั่นเอง
3. ใช้งานแฟลชไดร์ฟให้ถูกต้องตามขั้นตอน ถ้าเราเผลอดึงเอาแฟลชไดร์ฟออกจากเครื่องโดยที่ไม่ปิดการใช้งานซะก่อนอาจะทำให้ข้อมูลที่ถูกบันทึกอยู่ภายในเสียหายได้ ดังนั้นอย่าลืมใช้งานคำสั่ง Safely Remove Hardware ก่อนจะถอดแฟลชไดร์ฟออกจากคอมพิวเตอร์ทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
4. ไม่วางแฟลชไดร์ฟใกล้ความร้อน เช่นเดียวกับอุปกรณ์ดิจิตอลอื่นๆ แฟลชไดร์ฟเองก็มีความไวต่อความร้อนและอุณหภูมิสูงๆ ดังนั้นการนำแฟลชไดร์ฟไปวางใกล้กับหลอดไฟ เตาไมโครเวฟ เครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์ที่แผ่รังสีความร้อนอื่นๆ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ของเราได้
5. เก็บแฟลชไดร์ฟใส่กระเป๋าป้องกันสูญหาย เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก หลายคนจึงอาจเคยเจอปัญหาแฟลชไดร์ฟสูญหายบ่อยๆ ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหานี้การเก็บใส่กระเป๋าหรือทำเป็นพวงกุญแจแล้วห้อยกระเป๋าประจำตัว จึงช่วยลดโอกาสที่แฟลชไดร์ฟคู่ใจจะสูญหายได้
และนี่ก็คือเคล็ดลับง่ายๆ 5 ข้อที่จะมาช่วยยืดอายุการใช้งานของแฟลชไดร์ฟให้คุณใช้ได้นานจนคุ้มค่า และยังเป็นการใช้งานแฟลชไดร์ฟที่ถูกวิธี ป้องกันข้อมูลสำคัญเสียหายและยังช่วยป้องกันคอมพิวเตอร์ของเราติดไวรัสอีกด้วยค่ะ
1. ปลอดภัยไว้ก่อนด้วยการแสกนไวรัส
ไวรัสคอมพิวเตอร์เป็นศัตรูตัวร้ายของคนใช้คอมพิวเตอร์ทุกคน ซึ่งแฟลชไดร์ฟนั้นเป็นอุปกรณืที่มีความเสี่ยงในการนำพาไวรัสจากคอมเครื่องอื่นมาติดกับคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของเราได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นก่อนการใช้งานเราจึงต้องแสกนไวรัสก่อนเสมอเพื่อตรวจหาไวรัสที่อาจติดมา ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับคอมของเรา รวมถึงป้องกันไฟล์เอกสารสำคัญหรือรูปภาพต่างๆ สูญหายจากการโดนไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ติดมาจากแฟลชไดร์ฟทำลายไป
2. พกพาแฟลชไดร์ฟสำรองเสมอ
ถึงแฟลชไดร์ฟจะสามารถบันทึกข้อมูลที่เราต้องการได้อย่างเพียงพอต่อชีวิตประจำวัน แต่ก็ไม่ควรเก็บข้อมูลไว้ในที่ๆ เดียวนะคะ โดยเฉพาะข้อมูลที่มีความสำคัญ ควรแบ่งเก็บในแฟลชไดร์ฟตัวอื่นๆ หรือแหล่งบันทึกข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น กูเกิลไดร์ฟ เมก้า วันไดร์ฟ คลาวน์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันการใช้งานแฟลชไดร์ฟตัวเดียวจนพังเสียหายและทำให้ไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้นั่นเอง
3. ใช้งานแฟลชไดร์ฟให้ถูกต้องตามขั้นตอน ถ้าเราเผลอดึงเอาแฟลชไดร์ฟออกจากเครื่องโดยที่ไม่ปิดการใช้งานซะก่อนอาจะทำให้ข้อมูลที่ถูกบันทึกอยู่ภายในเสียหายได้ ดังนั้นอย่าลืมใช้งานคำสั่ง Safely Remove Hardware ก่อนจะถอดแฟลชไดร์ฟออกจากคอมพิวเตอร์ทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
4. ไม่วางแฟลชไดร์ฟใกล้ความร้อน เช่นเดียวกับอุปกรณ์ดิจิตอลอื่นๆ แฟลชไดร์ฟเองก็มีความไวต่อความร้อนและอุณหภูมิสูงๆ ดังนั้นการนำแฟลชไดร์ฟไปวางใกล้กับหลอดไฟ เตาไมโครเวฟ เครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์ที่แผ่รังสีความร้อนอื่นๆ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ของเราได้
5. เก็บแฟลชไดร์ฟใส่กระเป๋าป้องกันสูญหาย เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก หลายคนจึงอาจเคยเจอปัญหาแฟลชไดร์ฟสูญหายบ่อยๆ ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหานี้การเก็บใส่กระเป๋าหรือทำเป็นพวงกุญแจแล้วห้อยกระเป๋าประจำตัว จึงช่วยลดโอกาสที่แฟลชไดร์ฟคู่ใจจะสูญหายได้
และนี่ก็คือเคล็ดลับง่ายๆ 5 ข้อที่จะมาช่วยยืดอายุการใช้งานของแฟลชไดร์ฟให้คุณใช้ได้นานจนคุ้มค่า และยังเป็นการใช้งานแฟลชไดร์ฟที่ถูกวิธี ป้องกันข้อมูลสำคัญเสียหายและยังช่วยป้องกันคอมพิวเตอร์ของเราติดไวรัสอีกด้วยค่ะ
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments